วันจันทร์ที่ 26 สิงหาคม พ.ศ. 2556

บุฟเฟ่ ใบหยก

ได้มีโอกาสเข้ากรุงสักครั้งแบบว่านานๆปีละครั้งหรือย่างมากแค่ผ่านไปหมอชิต หรือไป ดอนเมือง สุวรรณภูมิ แค่นั้นเอง ไม่เคยได้เที่ยวกรุงเทพสักที วันนี้โอกาศดี มีเจ้ามือพามาเลี้ยง อาหารบุฟเฟ่นานาชาติที่โรงแรมใบหยกสกาย ที่เป็นตึกที่สูงที่สุดในประเทศกันจ้าว
   
สำหรับปุฟเฟ่นานาชาติของที่นี่อยู่ที่ชั้น 84 แต่เราแวะไปชมวิวชั้น 77 และ 82 ก่อนจ้าว ชมฟรี  เขาจะมีมุมสำหรับถ่ายรูปและขายของที่ระลึก และมีชมวิวรอบตึกโตยจะเป็นแบบหมุนรอบๆตึกเลยสำหรับคนที่กลัวความสูงแล้วไม่ขอแนะนำเพราะมันค่อนข้างหวาดเสียวจ้าว
 
 อาหารที่โรงแรมใบหยกสกาย สุดยอดมากจ้าว ไม่เคยกินปุฟเฟ่ที่ไหนสุดยอดเท่านี้เลย และไม่จำกัดเวลาด้วยสำหรับชั้นนี้ราคาอยู่ที่ท่านละ 690 บาท มีปลาเซลมอลดิบ กินแบบสะใจ ไม่ว่าสเต็กแกะ กุ้งเทมปุระ ติ่มซำ ผลไม้ ของหวานต่างๆสุดยอดมาก แต่ว่าน้ำดื่ม เครื่องดื่มเราต้องซื้อเพิ่มจ้าว

บรรยากาศมองจากชั้น 82

บรรยากาศยามค่ำคืน

ที่ตักอาหาร

เซลมอลดิบ สดๆ

ของโปรดทั้งนั้น

มากับน้องสาว


วันเสาร์ที่ 24 สิงหาคม พ.ศ. 2556

เที่ยววังเวียง

วังเวียงเป็นเมืองที่น่าเที่ยวเมืองหนึ่ง ออกจากหลวงพระบางก่อนจะไปเวียงจันทน์ก็แวะที่วังเวียงก่อนสักสองคืน ที่นี่บรรยากาศแบบน่าไปนั่ง ชิว ชิว มองดูแม่น้ำซองไหลผ่านมองดูผู้คน เล่นน้ำ นักท่องเที่ยวส่วนมากเป็นฝรั่ง และวันที่ไปนั้นชอบนั่งตอนเย็นๆนั่งมองคนเล่น TUBING หรือเป็นการนั่งห่วงยางล่องมาตามน้ำ นั่งดูพระอาทิตย์ตกดิน เราได้ห้องพักที่ติดแม่น้ำเลยราคาไม่แพงมากยิ่งได้บรรยากาศสำหรับคนเหงาๆ หรืออยากมาพักผ่อนจริงๆ ที่วังเวียงมีอาหารการกินเยอะแยะ ส่วนมากจะเป็นแบบเหมือนกับโต๊ะญี่ปุ่น นั่งอยู่บนแคร่ และเปิดหนังให้นักท่องเที่ยวดู และบนโต๊ะก็จะมีเหล้าเป็นกะติกๆ จะมีร้านแบบนี้เยอะมาก วันกลับไปที่ขนส่งวังเวียงนั่งรถตู้ไปเวียงจันทน์ประมาณ  5 ชั่วโมง ถนน ณ ตอนนั้นไม่ค่อยจะดีเท่าไหร่ วังเวียงเป็นเมืองที่มีเสน่ห์อย่างหนึ่ง คิดแล้วก็อยากจะกลับไปเที่ยววังเวียงอีกสักครั้ง







วันพฤหัสบดีที่ 22 สิงหาคม พ.ศ. 2556

โรงแรมพี ทู เพลส เชียงของ

โรงแรมพี ทู เพลส เชียงของ ตั้งอยู่ถนนเทิง-เชียงของ ไม่ไกลจากโลตสเชียงของเท่าไหร่ อยูด้านหน้าของโรงเรียนลูกรักเชียงของ และคาดว่าคงเป็นเจ้าของเดียวกัน  โรงแรมพี ทู เพลส เป็นโรงแรมเปิดใหม่ เปิดเมื่อปี 2556 นี้เอง ห้องพักยังใหม่ และก็กำลังปรับปรุงและเพิ่มห้องขึ้นเรื่อยๆ โรงแรมพี ทู เพลส เป็นโรงเรียนสอนการท่องเที่ยว พนักงานต้อนรับ ดี เป็นกันเอง ด้านหลังโรงแรมมีสระว่ายน้ำ มีทั้งสระเด็กและสระสำหรับผู้ใหญ่ สระว่ายน้ำสะอาด แต่ขนาดไม่ค่อยใหญ่มาก โดยรวมแล้ว ทำเลดี มีรถผ่านหน้าโรงแรมตลอด แต่ไกลจากตัวเมือง และแหล่งบันเทิง

หน้าโรงแรมพี ทู เพลส เชียงของ

หน้าห้องพักพี ทู เพลส เชียงของ

หน้าห้องพักพี ทู เพลส เชียงของ

สระว่ายน้ำพี ทู เพลส

วิธีทำเอาะหลามลาว

วันนี้เรามาแนะนำวิธีทำอาหารลาวอย่างหนึ่งจ้าว นั่นคือ เอาะหลาว เอาะหลามนี่เป็นอาหารของลาว ที่นิยมกันมาก และเป้นอาหารประจำชาติลาวเลยก็เป็นได้ เพราะคนลาวไม่ว่าจะแขวงไชยบุรี แขวงบ่อแก้วจนถึงหลวงพระบางก็ยังเห็นเอาะหลามมีขายอยู่ทั่วไปจ้าว วันนี้เราจะทำเอาะหลามหนังควาย เครื่องปรุงก็มี
1.ต้มให้เปื่อยๆ
2.มะเขืออ่อน
3.เห็นหูหนู เห็ดลม หรือเห็นแล้วแต่เราจะใส่
4.สะค้าน หรือคนเหนือเรียก จะค่าน
5.พริกขี้หนู หรือพริกหนุ่มก็ได้
6.ผักชีลาว
7.หัวปลี
8.ผักแล้วแต่เราจะชอบกิน
9.ปลาร้า
10เกลือ
วิธีทำ ง่ายๆต้มน้ำให้เดือด ที่สำคัญที่หนังควายต้องต้มนานๆจนเปื่อยไม่งั้นกินไม่ได้เจ้า เวลาต้มน้ำใส่เกลือไปให้พอประมาณจ้าว แล้วใส่มะเขืออ่อน เห็ด สะค้าน พริก หัวปลี พอเปื่อยแล้ว ตักออกมา โคลกรวมกัน แต่สะค้านไม่ต้องตักออกมา แล้วตักใส่หม้อเหมือนเดิม ใส่ปลาร้า รสดีหน่อยก็ดีจ้าว พอรสชาติใช้ได้แล้วใส่ผัก ผักชีลาว พอผักสุกก็ชิมถ้าอร่อยแล้วก็เสริฟได้เลยจ้าว

การทำอาหารลาวแบบง่ายๆแม้อยู่ในเมืองที่ผักบางอย่างก็หายากหรือไม่มี แต่ก็คิดถึงอาหารบ้านเราเหลือเกินก็ประยุกต์เอาใหม่จ้าว อาหารลาวยังมีอีกหลายอย่าง และมีทั้งอาหารไทย เหนือ ที่ชอบกินวันหลังจะทยอยเอามาให้ลองทำกินกันดูจ้าว

ผักที่จะใส่เอาะหลาม

หัวปลี และผักที่จะใส่เอาะหลาม

กำลังต้มหนัง

เอาะหลามลาวที่ทำเสร็จแล้ว



วันอังคารที่ 20 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ปีใหม่ม้ง

ปีใหม่ม้งคือขึ้น 1 ค่ำ เดือน 2 ก็จะประมาณ เดิอนธันวาคมขมกราคม งานปีใหม่ม้งที่เราไปดูมาอยู่ที่อำเภอเวียงแก่น จังหวัดเชียงราย เป็นหมู่บ้านเล็กๆไม่ได้จัดใหญ่โตอะไร วันนั้นไม่ได้ตั้งใจไปงานพอดีบังเอิญผ่านไปทางนั้น เห็นว่า ทำไงเขาแต่งตัวชาวม้งกันสวยๆทั้งนั้นเลย เลยตามเข้าไป ก็ไปเจองานปีใหม่ม้งพอดีจ้าว หมู่บ้านที่คนไม่ค่อยรู้จัก เป็นหมู่บ้านเล็กๆเงียบๆที่เขายังอนุรักษณ์วัฒนธรรมประเพณีของเขาอยู่ ในงานมีคนไม่ถึงร้อยมั้ง และมีคู่หนุ่มสาว แต่งตัวสวยงาม ในชุดปจะจำชนเผ่า แต่ว่าวัยรุ่น ที่นี่ใส่รองเท้ากันแบบทันสมัยมาก แปลกดีจ้าว มาโยนลูกบอลกัน เขาจะยืนเรียงแถวหน้ากระดานเข้าหากัน โยนไปโยนมารับลูกกันอยู่อย่างนั้น และในบริเวณนั้นก็มีของกิน มากมาย แต่เสียดายที่เราไม่อยู่จนจบงานและกลางคืนไม่รู้มีอะไรด้วย แต่ปีหน้าเราจะไปอีกให้ได้

ชุดประจำชนเผ่าและรองเท้าแบบหลากหลาย
หนูน้อยชาวม้ง


วันจันทร์ที่ 19 สิงหาคม พ.ศ. 2556

น้ำพริกข่า ผักนึ่ง


เนื่องจากหน้าฝน จึงมีเห็ดและผักค่อนข้่างเยอะ วันนี้ ได้มาเจอกับพ่อแม่ พี่น้อง เลยนึกอยากกินอาหารบ้านเองสักหน่อย จึงบอกให้พี่สาวทำน้ำพริกข่า ผักนึ่ง และปลาเผากินดีกว่า เพราะที่นี่ติดกับแม่น้ำโขง เลย มีคนเลี้ยงปลาทับทิมกระชังแม่น้ำโขง รสชาติของเลี้ยงในบ่อาจะอร่อย และไม่มีโคลนดินมากเหมือนที่เขาเลี้ยงในบ่อธรรมดา บางคนเขายังเอามาทานกันสดๆก็มีจ้าว

นี่คือหน้าตาของน้ำพริกข่า

น้ำพริกข่าก็ทำไม่ยาก แต่เอาข่า(ข่าแก่ๆหน่อยจะดี) กระเทียม(ต้องใส่เยอะหน่อย) และเกลือมาตำรวมกันข่านี่เราต้องสับให้ละเอียดก่อนเอาลงไปโคลกรวมกันนะจ้าว และก็ใส่ผงชูรสลงไปด้วย มากน้อยแล้วแต่ความชอบนะจ้าว เสร็จแล้วเอามาผัดในน้ำมัน พอหอม รสชาติจะออกหอมข่าและกลมกล่อม หรือปลุงรสตามใจชอบจ้าว

ผักนึ่งกินกับน้ำพริก

นี่คือหน้าตา ของผักนึ่ง ส่วนมากที่ทานคู่กับน้ำพริกข่าคือ เห็ดนางฟ้า หรือเห็ดฟางนึ่งจะเข้ากันมากๆ และที่เห็นเป็นลูกๆคือ มะกะดอม แต่ไม่รู้ว่าที่อื่นเขาเรียกว่าอะไรไม่รู้จ้าว มะกะดอมจะมีสองชนิด ชนิดขมและหวาน เราจะเลือกชนิดหวานเพราะขมมันจะขมมากๆจ้าว

ปลาทับทิมเผาเกลือ
และอีกอย่างคือ ปลาทับทิมเผาเกลือ เป็นปลาทับทิมจากกระชังปลาน้ำโขง เอาเนื้อปลา มาจิ้มกับน้ำพริกข่า อร่อยแซบเว่อร์จ้าว การทานอาหารแบบนี้ทานคนเดียวไม่ค่อยอร่อยจ้าว ต้องทานกันหลายๆคน ถึงจะอร่อย แย่งกันทานคุยกันไปตามประสาจ้าว 

หน้าตาของอาหารวันนี้
ในสับรับคืออาหารของวันนี้จ้าว คนที่นี่เขาจะทานแบบใส่สำรับทุกครั้ง มีคนพูดว่ายิ่งคนที่มีครูมีบา หรือผูหลักผู้ใหญ่แล้วต้องใส่สำรับ ทุกครั้งจ้าว และเวลาทานอิ่มแล้ว เป็นสิ่งที่พ่อแม่สอน และปฏิบัติตามกันมาคือ ไหว้สำรับด้วย ถ้ามาทางบ้านนอกๆที่มีเชื้อสายลาวอยู่เวลาเขาทานอาหารอิ่มแล้ว เขาจะยกมือไหว้ทุกครั้ง แต่บางคนที่เป็นคนสมัยใหม่แล้วมักจะไม่ทำเพราะว่าอาย แต่นี่เป็นสิ่งที่ดีที่ควรอนุรักษ์ไว้ คนไหนที่เป็นผู้ใหญ่แล้ว ไม่ว่าจะเป็นคนไทย หรือลาว หรือ คนที่ไหนควรจะปลูกฝังคนรุ่นใหม่ๆไม่ให้ลืมวัฒธรรมประเพณีที่ผู้เฒ่าผู้แก่สอนมานะจ้าว อย่าให้สิ่งดีๆต้องหายไปกับกาลเวลา


วันอาทิตย์ที่ 18 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ดูดวง ไหว้พระวัดห้วยปลากั้ง

วัดห้วยปลากั้งตั้งอยู่ที่ ต.ริมกก อ.เมือง เชียงราย การเดินทางไปไม่ยากเลย อยู่ทางเดียวกับกระเหรี่ยงรวมมิตร แตจะมีทางเลี้ยวซ้ายเข้าไป ทางเข้าไปจะเป็นกลางทุ่งนา และบ้านคนไม่มากนัก ที่วัดห้วยปลากั้งนี้ก็จะมีอาจารย์พบโชค เป็นเจ้าอาวาทอยู่ที่นี่ เมื่อก่อนปี2548 วัดห้วยปลากั้งเป็นเพียงสำนักสงฆ์เล็กๆเท่า แต่ด้วยบารมีของอาจารย์พบโชคและชื่อเสียงในด้านการดูดวงแล้วจึงทำให้มีผู้คนทั้งนักการเมืองราดาดัง และชาวบ้านมาทำบุญกันเป็นจำนวนมาก
เจดีย์พบโชค
บรรยากาศด้านหน้าเจดีย์พบโชค

ภาพถ่ายเมื่อสมัยเป็นสำนักสงฆ์

อยากมาดูดวงกับพระอาจารย์พบโชคมาก มาครั้งสองครั้งไม่ได้พบ เพราะพระอาจารย์ติดกิจนิมนต์และมาครั้งที่สองก็ต้องรอช่วงบ่ายซึ่งเราไปตั้งแต่เช้า และไม่มีเวลารอ มาครั้งที่สาม ตั้งใจรอประมาณ 3 ชั่วโมง เอาค่าครูใส่พาน คนละ สองร้อยบาท พอพบพระอาจารย์แล้วรู้สึกว่าหน้าตาพระอาจารย์อิ่มบุญมากยิ้มแย้มตลอดเวลา เราได้คิวแรกเลยจ้าว ท่านจะอ่านชื่อ น่าจะดูตามตัวอักษร แต่ว่าเสียดายมากๆฟังไม่ได้ยินและไม่เข้าใจเลย เพราะท่านพูดเบามากๆขนาดเข้าไปใกล้และเอาโทรศัพท์อัดเสียงไว้ด้วยก็ไม่ได้ยิน  และอยากจะถามอะไรสักหน่อย แต่ท่านบอกว่าไม่มีอะไรแล้วไปได้แล้ว สรุปดูดวงแค่ 5วินาที ไม่รู้เรื่องอะไรเลย ไม่รู้ว่าดูกับคนอื่นจะเป็นเหมือนกันไหม แต่ก็แค่ได้ไปไหว้พระ ไปทำบุญก็สบายใจแล้วจ้าว

เจ้าแม่กวนอิมไม้แกะสลัก
มาที่เจดีย์พบโชดเป็นเจดีย์สูงเก้าชั้น แต่ละชั้นจะมีพระพุธรูปไม้แกะสลัก ชั้นแรกและชั้นสองเป็นเจ้าแม่กวนอิมปางค์ต่างมากมาย ชั้นบนสุด เขาบอกกัว่าถ้ามาแล้วไม่ไปชั้นบนสุดถือว่าไม่มีบุญก็เลยไปกันจนได้ สูงมากๆเห็นวิวเชียงรายเลยจ้าว และที่ข้างๆเขากำลังก่อสร้างน่าจะสร้างเจ้าแม่กวนอิมขนาดใหญ่อีกที่หนึ่ง 

กวนอิมพันมือ

หลวงปู่ทวด

วันพฤหัสบดีที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ดอยแม่สลอง



ดอยแม่สลองตั้งอยู่ที่ หมู่บ้านสันติคีรี  ต.แม่สลองนอก อ.แม่ฟ้าหลวง ห่างจากตัวเมืองเชียงรายประมาณ 75 กิโลเมตร ทางขึ้นดอยค่อนข้างดีทีเดียวจ้าว มีป้ายบอกทางโค้งตลอดทาง ถึงแม้จะเดินทางมาถึงมืดหน่อยแต่การขับรถก็ไม่ต้องน่าเป็นห่วงมาก ที่ดอยแม่สลอง ส่วนมากเป็นชาวจีนฮ่อ ที่มาอยู่ตั้งแต่สมัยสงคราม มากว่า 40 ปีแล้ว จะสังเกตุเห็นว่าคนส่วนมากจะพูดจีนกันได้ ที่ดอยแม่สลองอากาศเย็นตลอดปี สูงจากระดับน้ำทะเลประมาณทะเลเฉลี่ย 1,200 ม.

ห้องพักที่ฟาง ฟางเก็ทเฮาท์
 ขับรถขึ้นมาอีกหน่อย จะมีตลาด จะเป็นของคนในพื้นที่ ที่มาข่ายของกัน ส่วนมากจะเป็นของแบบชาวเขา งานฝีมือ และงาช้าง เขี้ยวหมูป่าเป็นต้น บรรยากาศของตลาดแม่สลองดีมากๆ บรรยากาศเหมือนอยู่ในท่ามกลางชาวเขา มีร้านอาหาร และร้านขายชา เราก็ลองๆชิมชาแต่ละร้านเลยจ้าว

บรรยากาศตลาดที่ดอยแม่สลอง
ของที่ขายในตลาดแม่สลอง

 ที่ดอยแม่สลองมีร้านอาหาร ร้านหนึ่งอยู่ที่ตลาดเช้า วันนี้เราสั่ง ยำใบชา ขาหมูยูนาน หมั่นโถ และต้มซุปไก่ดำ อาหารที่นี่อร่อยมากๆ เด็กๆกินกันอย่างอร่อยเลยจ้าว
ร้านอาหารที่ดอยแม่สลอง
 เมื่อลงจากดอยก็และชมสวนชา และแวะถ่ายรูปกันหน่อย อากาศดี ชอบมากๆเอาไว้มาอีกครั้งจะเก็บรายละเอียด และถ่ายรูปมาแบ่งกันกันชมเยอะนะจ้าว
ไร่ชาที่ดอยแม่สลอง

วันพุธที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ไร่บุญรอด เชียงราย (Bunrod farm.)

ด้านหน้าทางเข้า มีสิงห์ตัวใหญ่อยู่
ไร่บุญรอด เป็นสถานที่ท่องเที่ยวแห่งหนึ่งในเชียงราย ตั้งอยู่ที่ เลขที่ 99 หมู่ที่ 1 บ้านแม่กรณ์ ต.แม่กรณ์ อ.เมือง จ.เชียงราย เดินทางมาง่ายๆจ้าว แค่เข้าไปทางวัดร่องขุ่น ตรงไปประมาณ 4 กิโล ถึงแยกแล้วเลี้ยวขวา ตรงไปอีกประมาณ 2 กิโลก็จะเห็นสิงห์ทองตัวใหญ่ๆแล้วจ้าว 

ป้ายสำหรับนั่งถ่ายรูป
ที่ไร่บุญรอดนี้ เมื่อก่อนจะเก็บค่าเข้าชมสวนประมาณคนละ 20 บาท แต่ไปครั้งล่าสุดเมื่อ เดือนสิงหาคม 2556 ได้สอบถามคนที่เก็ยใบชาแล้ว เขาบอกว่า เมื่อก่อนเขาเก็บค่าเข้าชม แต่ตอนนี้เขาไม่เก็บแล้ว สามารถมาชมสวน ถ่ายรูป และเก็บใบชาได้ และมีร้านอาหาร แต่เราไม่ได้ไปร้านอาหารเพราะเพิ่งจะกินอิ่มๆมา เอาไปคราวหน้าจะมาชิมอาหารที่ร้านไร่บุญรอดกันจ้าว


บรรยากาศที่นี่ดีมาก มีดอกไม้ต้นไม้ และสวนชา กว้างใหญ่ไพศาล และมีสระน้ำ คนที่มาที่ไร่บุญรอดนี้ ส่วนมากก็จะมาทานอาหารกัน แต่ถ้าเกิดมาตอนหน้าหนาวก็คงจะเห็นดอกไม้บานสะพรั่ง สวยงามกว่านี้จ้าว

ไร่ชาบุญรอด

สนามหญ้าไร่บุญรอด



ร้านอาหารไร่บุญรอด

วันศุกร์ที่ 9 สิงหาคม พ.ศ. 2556

มาแพร่ ไปเที่ยวไหนดี


จังหวัดแพร่ เป็นจังหวัดเล็กๆทางภาคเหนือตอนบน ได้มีโอกาสมาเที่ยวที่แพร่ เป็นเมืองเก่าจ้าว บรรยากาศยังเป็นแบบล้านๆได้ขับรถชมรอบๆเมืองแล้วรู้สึกอบอุ่นดี และอีกอย่างเวลาเราถามทางคนแพร่เขาก็จะตอบอย่างมีไมตรีจ้าว เส้นทางจากเชียงรายมาแพร่ ผ่านเส้นร้องกวางถนนเส้นนี้เกิดอุบัติเหตุบ่อยเพราะ ถนนเลียบภูเขาโค้งเยอะและมีรถบรรทุกเยอะ ทำให้ขับเร็วไม่ได้ แซงก็ไม่ได้ สามร้อยกว่ากิโล ใช้เวลา 5 ชั่วโมงเลยจ้าว แวะนั่น แวะนี่ด้วย รวมๆและวถึงเย็นจ้าว

อุทยานลิลิทพระลอ
ที่แวะที่แรก คือ อุทยานลิลิทพระลอ อยูอำเภอสอง ก่อนเข้าตัวเมืองก็จะถึงอำเภอสองก่อน แวะสักหน่อยจ้าว เพราะเคยได้ยินเพลง มาเหมือนกัน ไหนๆก็มาถึงที่แล้ว ไปชมของจริงกันดีกว่า ที่อุทยานลิลิทพระลอ แห่งนี้ มีถ้ำปู่สมิงพลาย ที่เป็นคนทำเสน่ห์ให้กับพระเพื่อนพระแพง ด้วย และมีจุดให้ถ่ายรูปน่ารักๆหลายจุด แต่วันที่ไปไม่ค่อยเห็นนักท่องเที่ยวเท่าไหร่ จะเห็นแต่กลุ่มเราแค่กลุ่มเดียว

และต่อมาก็มาถึงที่ไฮท์ไลท์ของเมืองแพร่เลย คือ พระธาตุช่อแฮ เป็นพระธาตุประจำปีเกิดของคนเกิดปีขาล และเป็นที่เคารพสักการะของคนที่นี่ จะมีคนมาบนบานศาลกล่าวกัน ต่างๆนานา และวันที่ไปเขากำลังก่อสร้างต่อเติมวัดเลยไม่ค่อยสะดวกเท่าไหร่  เดินขึนบันได ไม่รู้กี่ขั้น นับไม่ไหว แต่ ก็ยังน้อยกว่าดอยสุเทพจ้าว
ทางขึ้นวัดพระธาตุช่อแฮ


เราพักที่แพร่ หนึ่งคืน เลือกนอนที่โรงแรม นครแพร่ ราคาประมาณห้องละ 350 บาทเป็นห้องแอร์ โรงแรมค่อนข้างเก่าหน่อยจ้าวเลยราคาถูก แต่โรงแรมนครแพร่นี้ มีสองที่นะจ้าว ถ้าไปนครแพร่ใหม่ก็จะราคาแพงมาหน่อย แต่ที่เลือกที่นี่เพราะอยู่ติดกับถนนคนเดินเลย ถนนคนเดินแพร่ มีเดินละครั้งเสาร์แรกของเดือน ลงจากโรงแรมก็ เดินเข้าไปที่ศาลเจ้า วัดจีนที่อยู่หน้าโรงแรมเดินตรงเข้าไปจะมีประตูหลังวัดข้ามไปก็เป็นถนนคนเดินแล้ว ไม่ต้องเดินไกล และไม่ต้องนั่งสามล้อด้วยจ้าว สะดวกดี ที่ถนนคนเดินแพร่ เขามีคนมาเล่นดนตรีพื้นเมืองโชว์และ มีเวลาการแสดง ส่วนอาหารของกินก็เหมือนที่อื่นทั่วไปจ้าว



บ้านประทับใจ
ไปต่อกันที่บ้านประทับใจแพร่ เป็นบ้านเก่าอายุร่วมร้อยปี เป็นบ้านไม่สักทั้งหลัง เสาบ้านใหญ่มากๆ ข้างในบ้านมี ของที่ระลึกขาย และชั้นบน มีของเก่าหายาก หลายอย่าง เรียกได้ว่ามาแล้วประทับใจสมชื่อจ้าว






ก่อนกลับได้ไปเที่ยวที่ไฮไลท์อีกที่หนึ่ง ที่พลาดไม่ได้คือวนอุทยานแพะเมืองผี ร้อนมากจ้าว ที่จริงก็เป็นดิน และหิน มันก็มหัศจรรย์ มาก แต่ไม่รู้จะดูอะไร ร้อนมากๆจ้าว

วนอุทยานแพะเมืองผี




มากินข้าวที่ร้านเมตตา ร้านนี้มีรูปดาราติดเต็มไปหมดเลย น่าจะเป็นร้านดังของที่นี่นะจ้าว อยู่ในตัวเมืองไม่ไกลจากตลาด บอกไม่ถูกเหมือนกันว่าอยู่ตรงไหน เอาเป็นว่าถ้าอยากมากิน ข้างมันไก่ ข้าวหน้าเป็ด ข้าวขาหมู อร่อยๆก็บอกสามล้อให้มาส่งที่ร้านเมตตาเลยจ้าว เพราะตอนที่มากินก็ให้สามล้อมาส่งร้านที่มีอาหารเช้าอร่อยๆเขาก็มาส่งที่ร้านเมตตานี่แหละจ้าว



วันพฤหัสบดีที่ 8 สิงหาคม พ.ศ. 2556

ฟาร์มแกะ เชียงราย


วนาฟาร์ม เชียงราย ตั้งอยู่ถนนเทิง เชียงราย ถ้าอยู่เชียงรายก็ตรงแยกแม่กรณ์เลี้ยวซ้ายไปเส้นที่จะไปเทิง ไปอีกประมาณ 6 กิโล เจอสามแยกที่จะไปเวียงชัย ตรงไปอีกจ้าวไม่ต้องเลี้ยวไปอีกนิด จะเจอป้ายวนาฟาร์ม เลี้ยวซ้ายเข้าไปเลย ที่นี่มีทั้ง รีสอร์ทห้องพักด้วย มาเด็กๆมาเที่ยวแต่ไม่ได้พักที่นี่นะจ้าว เพราะไม่ไกลจากบ้านมากกลับไปพักที่บ้านประหยัดเงินอีกจ้าว

ฟาร์มแกะที่วนาฟาร์ม เชียงราย
พอเข้ามาจะมีร้านอาหาร ของฝาก ร้านกาแฟ และมีอาหารสำหรับเลี้ยงแกะ เลี้ยงนกกระจอกมีผักบุ้งกำละ 10 บาท อาหารแบบเม็ดก็ถุงละ 10 บาทเหมือนกันจ้าว ถ้าเราไม่ได้มาพักเราก็สามารถมาทานอาหาร มาดูแกะ นกกระจอกเทศ หรือ มาขี่ม้าเล่นก็ ได้จ้าว ข้างกับที่นกกระจอกเทศและแกะ จะมีสัตว์จำพวกไก่ เช่นไก่ฟ้า ไก่แจ้ เป็นต้น

มีบริการขี่้ม้า รอบละ 150 บาท
ยิ่งเป็นนกกระจอกเทศแล้ว ถ้าเป็นเด็กๆก็อย่าไปเข้าใกล้มากนะจ้าวเพราะท่าทางมันจะจิกเอาง่ายๆ ถ้าเราไปในช่วงที่นกกระจอกฟักไข่ เขาก็จะมีช่องให้ดูตอนที่นกกระจอกฟักไข่ด้วย และจะได้ยินเสียงนกกระจอกร้องเป็นพักๆด้วย 

ให้อาหารนกกระจอกเทศ
อยู่เชียงรายอยากเห็นแกะไม่ต้องไปไกลถึงสวนผึ้ง และถ้าไม่มีเวลาพาเด็กๆไปสวนสัตว์ที่เชียงใหม่ มาที่วนาฟาร์มก็ได้เหมือนกัน แต่ไม่แน่ใจว่าช่วงหน้าฝนเขาจะปิดหรือเปล่า เพราะเคยไปช่วงเดือนมิถุนายน เขาปิดรีสอร์ท เลยไม่แน่ใจว่าจะไปเสียเที่ยวหรือเปล่า หรือว่าไหนๆก็ได้มาเชียงรายแล้ว แวะสักหน่อยนะจ้าว กินกาแฟที่นี่สักแก้ว แล้วค่อยเดินทางต่อจ้าว

ป้อนนม เจ้าแกะ

บทความที่ได้รับความนิยม