แกงกระด้าง อาหารเมืองหนาว

แกงกระด้าง นี่เป็นอาหารยอดฮิตในช่วงหน้าหนาวของหมู่เฮทาจาวเหนือกันเลยทีเดียว หรือแกลอะไรต่างๆที่ใส่หมูมันลงไปทิ้งไว้ค้างคืนกระด้างหมดเลยจ้าว ถ้าอากาศเย็นๆนะ

แกงกระด้างนี่วิธีทำเมือนต้มขาหมูนั่นแหละจ้าว แต่เราไม่เอากระดูก หรือใครที่ชอบกระดูกก็ใส่ลงไปก็ได้ ต้มขาหมูสับเป็นชิ้นนะ ไม่ใช่ต้มทั้งขา อิอิ แล้วใส่หอมแดงรากผักชี เกลือ คือแบบว่าปรุงรสตามใจชอบ แล้วทิ้งไว้ค้างคืน ก็จะกรด้างเอง

แตาถ้าซื้อตามตลาดบางเจ้าเขาจะใส่ผงวุ้นเพื่อให้มันกระด้างไว และนาน ไม่มีอันตรายอะไรแต่มันจะไม่ค่อยอร่อยเหมือนที่เราทำเองและกระด้างตามอากาศที่หนาวเย็นของทางเหนือบ้านเราจ้าว

ซื้อที่ตลาดเชียงของ ราคาถุงละ 20บาท

เจ้านี้เขาบอกว่าเขาไม่ใส่ผงวุ้นแข็งตามธรรมชาติเพราะช่วงนี้หนาว

ข้าวกั้นจิ้น หรือข้าวเงี้ยว

ไปเดนตลาดแถวๆทางภาคเหนือจะเห็นข้าวกั้นจิ้น เป็นห่อๆขายทั่วไปราคาประมาณห่อละ 10 บาท ข้าวกั้นจิ้นนี่เป็นอาหารพื้นบ้านทางเหนือเลย

ข้าวกั้นจิ้นทำมาจาก ข้าวจ้าว ผสมกับหมูสับ เลือดหมู เลือดหมูนี่ต้องเอามาคั้นกับใบตะไคร้ก่อนเพื่อดับก่อนคาว นำมาผสมกับข้าวจ้าวสุกใส่น้ำตาลทราย เกลือ ลงไปแล้วนำไปห่อนึ่งให้สุกก็ประมาณครึ่งชั่วโมง ทานกบกระเทียมเจียว ผักชี พริกแห้งทอดอร่อยมากๆเลยจ้าว

 ข้าวกั้นจิ้นห่อนี้ ห่อละ 10 บาท มีผัชี กระเทียมเจียว และพริกแห้งทอดแถมมาด้วย

 หน้าตาน่ากินไหมละคะ

อาหารเช้าพื้นบ้านข้างโบสถ์เซนต์ปอล มาเก๊า

หลังจากเดินเล่นที่ซากเราโบสถ์เซนต์ปอล ตอนเช้าๆที่ไม่มีคน  ก็เดินลงมาอีกฟาก เพื่อจะไปจตุรัสเซนนาโด้ ซึ่งไม่ไกลกันมาก สามารถเดินไปได้ ผ่านร้านค้าต่างๆที่ยังไม่เปิด และไม่ค่อยมีคน จะเห็นผู้คนบางส่วนที่เดินไปทำงาน ก็ให้บรรยากาศอีกกแบบหนึ่งเหมือนกัน กับเมือยงท่องเที่ยว เมืองธุระกิจที่ไม่มีวันหลับไหล ก็ยังมีบรรยากาศแบบนี้ให้เห็น

หลังจากที่เดินมาไม่มาก บังเอิญไปเห็นร้านเป็นเพิงร้านหนึ่ง บรรยากาศแบบบ้านๆไม่รู้เขาขายอะไรเลยเข้าไปดู รู้สึกจะเหมือนแป้ง และมีโจ็ก ไข้ต้ม และน้ำต้มข้าว อาหารแบบนี้ไม่รู้เหมือนกันเขาเรียกว่าอะไร ถามเขาแล้ว แต่ไม่รู้เรื่องจ้าว เลยสั่งมั่วๆ ได้น้ำข้าวมาซดร้อนๆ และจานนี้แหละจ้าว ไม่รู้เรียกว่าอะไร สรชาติก็เหมือนแป้งนึ่ง แล้วแต่เราจะปรุงจะไร เขามีเครื่องปรุง มีพริก น้ำส้มให้ปรุง รสชาติก็ใช้ได้ทีเดียว แถวราคาไม่แพง เราสั่งมา สี่อย่าง รวมไข่ต้มด้วยก็ประมาณ 60 บาท กินถูกๆในมาเก๊าก็มีจ้าว

 อาหารจานนี้เป็นแป้งนึ่ง ปรุงรสตามใจชอบรสชาติก็แปลก อร่อยดี

 มีขนมจีบด้วยอร่อยดี

ไม่ใช่ไข่ลวกเหมือนบ้านเรานะคะแต่เป็นไข่ต้ม ทานกับโจ็กหรือทานเปล่าๆ

เดินเล่นในย่างกุ้ง

มาย่างกุ้งช่วงฝนตกพอดี เลยเฉอะแฉะไปหมด เลยต้องเดินหาซื้อร่มสักคัน ร่มที่นี่มีขายทั่วไปราคาไม่แพงด้วย คันละประมาณ 60 บาทแล้วแต่ขนาดอีกที  

เวลาเดินเล่นที่ตลาดตอนเช้าๆเราจะชอบเห็นแม่ชี ที่ใส่ชุดสีชมพูเดินขอทำบุญ เป็นเงิน อยู่ทั่วไปและก็จะเห็นคนย่างกุ้งเขาก็ให้กันนะ มีทั้งแม่ชีเด็กๆไปจนถึงแก่เลย และพระบิณฑบาตที่นี่เขามากันเยอะ เดินมาเป็นแถว มีคนตีฆ้องเดินนำหน้ามา

ข้างๆทางจะเห็นเป็นหม้อดินใส่น้ำไว้ตามจุดต่างๆดื่มได้ เป็นน้ำดื่มไว้สำหรับให้คนดื่ม ก็มีคนมาดื่มบ้างจากที่สังเกตุดูนะจ้าว ตามข้างทางจะมีร้านขายขนมลูกอม ขายหมากพลู คิดว่าวิถีชิวิตของคนที่พม่ายังนิยมกินหมากกันอยู่

แถวใกล้ตลาดก็จะมีขายผักผลไม้กันเยอะแยะ

เที่ยวพะเยา-ลำปางแบบวันเดียวครบ

อันที่จริงแล้ว การมาพะเยา ครั้งนี้ไม่ได้ตั้งใจมาเลย แบบว่าเราจะไปเชียงใหม่ เลยอยากเปลี่ยนเส้นทางดูเผื่อเจออะไรใหม่ๆ และเที่ยวไปด้วย  

ออกจากเชียงของบ่ายๆไปถึงพะเยาค่ำ เดินเล่นที่กว๊านพะเยา แล้วหาอะไรอร่อยๆกิน แล้วเข้าห้องพักเลย ตอนเช้าออกมาแต่เช้า หาข้าวกินแล้วไปดูกว๊านยามเช้า ทำบุญปล่อยนกปล่อยปลาสักหน่อย บริเวณริมกว๊านก็จะมีคนมาขายของให้ปล่อยทำบุญอยู่ 

จากนั้นออกจากพะเยา ตรงเข้าลำปาง กะว่าจะไปพระธาตุลำปางหลวง แต่หาไม่เจอ หลงทางกันตั้งนานเลย เลยไปได้แค่วัดเจดีย์ซาว แ้วกลับมาในเมืองนั่งรถม้า ให้พูดได้มาให้ถึงนครลำปางแล้ว

ตอนนี้จะไปเชียงใหม่กันแล้ว แต่เห็นป้านบอกทางอำเภองาวซึ่งเป็นอำเภอเก่าแก่แล้ว ขอแวปเข้าไปชมสักหน่อย เพราะไม่เคยไปงาวเลย งานนี้จะถึงเชียงใหม่ก็ไม่กี่ชั่วโมงเอง แบบว่ามาครั้งนี้คุ้มสุดๆ

ริมกว๊านพะเยา

ทำบุญปล่อยปลาปล่อยกบ

ขนส่งงาว

วัดเจดีย์ซาว

นั่งรถม้าที่ลำปาง

เกาะหลีเป๊ะ

มาเที่ยวเกาะหลีเป๊ะ ครั้งนี้ มาแบบพักผ่อนจริงๆ เรามาจากสงขลา นั่งรถตู้มาสตูล แล้วให้เขาจอดที่ท่าเรือปากบารา  ตอนที่เราซื้อตั๋วที่สงขลา เราบอกเขาเลยว่าจะไปเกาะหลีเป๊ะ เราจะออกตั๋วเรือให้เราเลย พอไปถึงที่ท่าเรือปากบาราก็จะมีเรือรอเราอยู่แล้ว แบบนี้สะดวกกว่า

นั่งเรือชั่วโมงครึ่ง แต่ระหว่างทางเขาจะจอด เกาะเต่า เกาะไข่ ให้นักท่องเที่ยวได้ลงไปถ่ายรูป หรือนักท่องเที่ยวต่างชาติบางคนก็ลงว่ายน้ำเลย เพราะน้ำใสมาก แต่ nangnaree คงไม่เอานะจ้าว กลัวผิวเสีย อิอิ

เมื่อไปถึงเกาะ โรงแรมค่อนข้างแพง มีทั้งแอร์ พัดลม เราจะจองทางออนไลน์มาก่อน หรือมาเดินหาก็ได้ แต่ว่าอาหารที่นี่ค่อนข้างแพงนะ ผัดกระเพรายังจานละ 100 ไอติม แท่งละ 80 ประมาณนี้ แต่ถ้าช่วงค่ำๆมานั่งทานอาหารทะเลสด ดูแสดงควงไฟ ริมทะเล ไม่ค่อยแพงมาก เลือกปลา หรือ ปู แล้วให้เขาทำเมนูอะไรก็ได้ ที่สำคัญบรรยากาศดีสุดๆ

กลางคืนก็เดินช็อปปิ้งถ้าไม่ช็อปก็เดินดูวิถีชิวิตบนเกาะหลีเป๊ะ แต่เดียวน้เขามีไฟฟ้าใช้ 24 ชั่วโมงแล้วไม่ต้องห่วงจ้าว และไม่มีตู้เอทีเอ็ม แต่ร้านอาหารบางร้านเขาก็รับบัตร ทางที่ดี เตรียมอาหารว่าง ของใช้ส่วนตัวให้ครบ และกดเงินไปให้พร้อม ดีที่สุดจ้าว

 นักท่องเที่ยวบางส่วนก็จะซื้อทัวร์ออกไปดำน้ำดูปะการัง

 เรือจอดให้ถ่ายรูปที่เกาะตะรุเตา

 เรือจอดอีกที่ ที่เกาะไข่

 ทรายสวยมาก

 อินกันบรรยากาศแต่ร้อนสุดๆ

  หลีเป๊ะยามเย็นพระอาทิตย์ตกดิน

 เดินเล่นตอนพระอาทิตย์กำลังจะตกดิน โรแมนติกสุดๆ

แทมารีนด์เกสท์เฮาส์ กาญจนบุรี (Tamarind Guesthouse Kanchanaburi)

เมื่อมาเมืองกาญจน์แล้วก็ ต้องหาแพ นอนกันแล้วนะจ้าว ต่อด้วยหาอาหารรสจัดๆเช่นแกงป่า ผัดเผ็ดมาทานกันแล้ว

ครั้งนี้ขับรถ วนไปวนมา กว่าจะเจอแทมารีนด์เกสท์เฮาส์  ที่มีแพนอน บางที่ไม่รับคนไทยเข้าพัก ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไม ถ้าอยากพักก็ต้องพักที่ตัวตึกเท่านั้น บางที่เต็ม แต่ที่กาญจนบุรีโรงแรมเยอะเหมือนกันหาไม่ยากเลย

แทมารีนด์เกสท์เฮาส์ นอกจากจะเป็นแพที่อยู่บนน้ำแล้ว ที่แม่น้ำมีบัว น้ำสะอาด เมื่อที่เหนื่อยล้า อยากพักผ่อนมานั่งชมวิวตรงนี้บรรยากาศดีสุดๆ ไม่ไกลจาก เซเว่น และร้านอาหารมากนักเพราะเดินลงไปที่แพไม่ไกล แต่เสียตรงที่มีที่จอดรถน้อยไปหน่อย ทำให้คนที่มีรถส่วนตัวไปค่อนข้างลำบาก  ราคาห้องพัก ห้องแอร์ 500 ถ้าห้องพัดลม 350 นี่คือราคาของห้องพักแบบเป็นแพ มีห้องพักหลายราคาหลายแบบ ใครที่อยู่หลายๆวันก็น่าจะลองสอบถามที่นี่ดู

เมื่อได้ที่พีกที่นี่แล้วอย่าลืมหาของกินอร่อยๆ คนที่นี่เขาแนะนำร้านครัวคุณอี๊ด ร้านนี้ไปทานมาแล้วขอบอกว่ารสเด็ดสุดๆราคาก็ไม่แพง จากนั้นอย่าลืมขับรถเที่ยวไปตลาดและไปดูรถไฟสายมรณะกันนะจ้าว 

ในห้องพักแทมารีนด์เกสท์เฮาส์

 บรรยากาศหน้าห้องพัก

ตอนเช้าๆตื่นมาสูดอากาศบริสุทธิ์

พิพิธภัณฑ์ชนเผ่า ฮานอย

พิพิธภัณฑ์ชนเผ่าที่ฮานอยก็เป็นอีกแหล่งหนึ่งที่อยู่ในทริปวันเดย์ทริป ที่นี่เขาแสดงถึง วิถีชีวิตของเผ่าต่างๆ การแต่งกาย การดำเนินชีวิต และบ้านแบบต่างๆ

เมื่อดูในตึกพิพิธภัณฑ์ ที่แสดงชุดของชนเผ่าต่างๆ สิ่งประดิษ ของใช้ของชนเผ่าต่างๆแล้ว เมื่อเราเดินออกมาด้านนอก จะเจอกับบ้านทรงต่างๆมากมาย แต่ละบ้านข้างในเขาก็จะจัดของให้เรามองเห็นถึงวิถีชีวิตของคนที่ดำรงชีวิตด้วย

นี่น่าจะเป็นที่ใส่โรงศพโบราณนะ

ไม้แกะสลักเป็นรูปต่างๆ

 นี่คือบ้านยาว ข้่างในบ้านมีเหล้าไห มีเตาไฟ แสดงถึงวิถีชีวิตของคนบ้านนี้

บ้านหลังนี้สูงมาก

บ้านดิน

บ้านหลังนี้น่ารักมากชอบมาก ร่มรื่นดี

บ้านท่านโฮจิมินห์

ไปฮานอยแล้ว พร้อมอาหารเที่ยงด้วย โดยออกจากที่เก็ทหากว่าอยากไปเที่ยวแบบสบายๆก็ลองซือทัวร์แบบวันเดย์ทริป ไปเที่ยวในตัวเมืองเวียดนามแบบทั้งวัน โดยออกจะจากเก็ทเฮ้าท์ตั้งแต่เช้าเลย หรือไม่อยากจะมาแบบทัวร์ก็สามารถนั่งมอเตอร์ไซด์รับจ้างหรือแท็กซี่ ห่างจากใจกลางเมืองเพียง 5 กิโลเมตร  เขาไปหลายๆที่ และอีกที่หนึ่งที่พลาดไม่ได้เลยคือ บ้านของโฮจิมินห์ 

บ้านของโฮจิมินห์เป็นบ้านไม้ทรงโบราณบ้านไม้สวยดี มีคนมาเที่ยวเยอะแยะเลย และมีทั้งมาแบบทัวร์และมีเด็กมาทัศนศึกษาด้วย

เราสามารถเดินขึ้นไปดูด้านในของบ้านได้ด้วย

สระน้ำบริเวณรอบบ้านของโฮจิมินห์