วันอาทิตย์ที่ 4 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

ไปเที่ยวไหนอย่าลืมชิมโยเกิต

มาเที่ยวลาวมองไปร้านไหนๆก็จะมีโยเกิตยี่ห้อนนี้อยู่ หลายรส เหมือนกันเลยอยากลองชิมดูทุกรสชาติเลย แต่เราชอบรสธรรมชาติมากกว่านะ แปลกนะที่โยเกิตของไทยมันเละๆ และรสธรรมชาติก็แปลกๆไม่เหมือนของที่พม่า เวียดนาม หรือจีน เนื้อมันข้นๆตักขึ้นมาได้เป็นแผ่นอร่อยมาก 

แต่เคยไปกินโยเกิตของพม่า ที่ย่างกุ้ง เป็นโยเกิตสดๆเปรี้ยวมาก มันเละแบบดื่มเข้าไปเลย รสชาติต้องกลำ้กลืนฝืนทนกินลงไปอะไรยังงั้น แต่มันเป็นโยเกิตธรรมชาติจริงๆมีประโยชน์ต่อร่างกาย และเวลาเราไปเที่ยวหลายๆวันโดนแดดโดนลมก็เหลือโยเกิตไว้พอกหน้าบ้างก็ดีจ้าว


โยเกิตรสผลไม้รวม

โยเกิตถ้วยนี้ไม่ได้แช่เย็นเลยเป็นแบบนี้


วันพฤหัสบดีที่ 1 พฤษภาคม พ.ศ. 2557

เดินขึ้นพระธาตุภูฟ้าที่ผงสาลี

 นักท่องเที่ยวที่มาเที่ยวผงสาลี บางคนอาจจะมองข้ามพระธาตุภูฟ้าเพราะต้องเดินไกลมาก ขึ้นดอยอีกเหนื่อยจริงๆระยะทางประมาณ 2 กิโลเมตร แต่เดียวนี้เขาทำทางรถขึ้นไปได้แล้วสบายแล้วจ้าว วันนั้นที่เดินขึ้นไม่คิดว่ามันจะไกลขนาดนี้ ขึ้นบันไปทีแรกกะว่าจะนับว่ามีกี่ขั้น พอได้ไม่ถึงร้อยขั้นพอเลยจ้าว เหนื่อยฝุดๆ 

ทางขึ้นสองข้างทางร่มรื่นถึงขั้นอึมครึมน่ากลัวอยู่บ้างอาจเพราะคนไ่นิยมเดินขึ้นกันแล้วก็ได้มีเสียงนก เสียงแมลงร้องกัน และไม่มีนักท่องเที่ยวหรือชาวบ้านเดินตามมาเลยสักคนเดียว 

แต่เมื่อไปถึงจุดหมาย ก่อนจะถึงยอดเขามีพนักงานให้คำแนะนำและมีห้องการอยูตรงนั้นมีพนกชายคนเดียวก็เข้าไปคุยกับเขา เรื่องท่องเที่ยวต่างๆ เราสามารถลงอีกทางเพื่อไปยังหมู่บ้านชนเผ่าได้นะ แต่เหนื่อยจริงๆขอยอมแพ้กลับทางเดิมดีกว่า 

เดินขึ้นไปอีกนิดก็ถึงแล้วพระธาตุภูฟ้ามาสักการะขอพร แล้วชมวิวเมืองผงสาลีมุมสูงเห็นขนส่ง สนามกว้างๆไม่รู้เป็นสนามบินไป และเห็นหนองน้ำ ผงสาลีเมืองเล็กๆที่น่าอยู่ดูให้ชื่นใจดูให้สะใจ แล้วเราจะกลับลงมาไหวไหม อิอิ


บ้านของชาวบ้านผงสาลี

วิวผงสาลีก่อนขึ้นไป

กำลังเดินขึ้นแล้ว

สองข้างทางร่มรื่นดีนะ

ป้ายบอกทาง

ถึงแล้วพระธาตุภูฟ้า

วิวเมืองผงสาลีมองจากบนสุดหน้าพระธาตุภูฟ้า

วันจันทร์ที่ 28 เมษายน พ.ศ. 2557

โรงแรมเรือนพักปิ่นคำ ดวงมาลี ผงสาลี สะอาดและฟรีไวไฟ

ที่ผงสาลีเป็นเมืองที่มีโรงแรมเยอะเหมือนกันนะ วันนัที่ไปนั้นเป็นช่วงเดือนมีนา ปี 57 นั่งรถจากอุดมไชยตอนเที่ยงไปถึงที่ผงสาลีก็มืดแล้ว เดินหาโรงแรมก็เดินตามถนนไปเรื่อยแต่โรงแรมบางที่ก็เต็มนะเลยต้องเดินขึ้นไป ไปเลือกที่โรงแรมแสนสาลี ป้าเขาใจดี แต่ขาดที่ไม่มีไวไฟ คืนที่สองเดินมาหาข้อมูการท่องเที่ยวที่ห้องการการท่องเที่ยวมีโรงแรมอยู่ใกล้ๆเห็นป้ายว่าฟรีไวไฟ 24 ชั่วโมง ราคาคืนละ80000 หรือประมาณสามร้อยกว่าบาท โอ้ เมื่อคืนพักราคาหนึ่งแสนไม่มีไวไฟ วันนี้เลยเปลี่ยนที่พักซะเลย เพราะนอนหลายคืนอยู่นะ

ห้องพักที่นี่สะอาดใช้ได้ห้องกว้างดี แต่ห้องที่เราพักห้อง 1 หน้าต่างอยู่ติดประตูรั้วหน้าโรงแรมเขาเปิดไฟไว้ทั้งคืนสว่างตามากนอนไม่หลับเลย ไวไฟที่นี่ก็โอเคนะถ้าแค่จะเช็คอีเมลล์ หรือเฟสบุ๊ค ก็สรุปกันว่าใครที่มาเที่ยวผงสาลียังไม่รูพักที่ไหนมาที่โรงแรมเรือนพักปิ่นคำดวงมาลีก่อน แล้วอีกวันอื่นๆค่อยว่ากันใหม่จ้าว

ป้ายโรงแรม
ด้านหน้าโรงแรมสีสันสดใส
ฟรีไวไฟ
สภาพในห้องนอน
ของใช้ที่ทางโรงแรมเตียมไว้ให้
มีทีวีด้วยแต่ไม่ได้เปิดเลย
ห้องน้ำ
ร็อบบี้

วันอาทิตย์ที่ 27 เมษายน พ.ศ. 2557

มากี่ครั้งก็ไม่เบื่อที่หลวงน้ำทา ลาว

เมืองหลวงน้ำทานี้เป็นเมืองน่าเที่ยวนะ ให้ไปอีกกี่ครั้งก็คิดว่าไม่เบื่อ แถมยังไม่ไกลอีกด้วย อาหารการกินก็เยอะแยะ โรงแรมก็มีเยอะราคาไม่แพง ยิ่งตอนเย็นๆออกมาหาอะไรทานกันที่ตลาดมืด ที่นี่อาหารถูมากส้มตำจานละประมาณสี่สิบบาท แต่เป็ดย่างนี่สิตัวละสองร้อย ถูกเหลือเช่อจริงแถมอร่อยมากๆด้วย

ตอนเช้าๆอย่าลืมไไปเดินเล่นตลาดนะจากตัวเมืองเดินไปได้ไม่ไกลเท่าไหร่ มีอาหารแปลกและสัตว์ป่ามาขายกันเยอะเลย ที่นี่ราคาโรงแรมถูกนะ ถ้าขยันเดินเดินไปไกลนิดหนึ่ง วันนั้นนอนที่โรงแรมไตลื้อคืนละสองร้อยเองห้องแอร์ด้วย 

มาหลวงน้ำทาเมื่อไหร่อย่าลืมมาทานส้มตำ เป็ดย่างที่ตลาดมืดและเช้าๆเดินตลาดเช้าหลวงน้ำทากันนะจ้าว


ที่ตลาดมืดหรือ ตลาดกลางคืนหลวงน้ำทา


เป็ดย่างตัวละสองร้อยบาท

น้ำผลไม้ปั่น

เครื่องดื่ม

ส้มตำเห็นแล้วน้ำลายไหล

กินแบบสะใจ

ข้างในตลาดกลางคืนมีขายอาหาร เสื้อผ้า

บรรยากาศตลาดมืดตอนมืดจริงๆ

วันเสาร์ที่ 26 เมษายน พ.ศ. 2557

ภาพรวมการท่องเที่ยวผงสาลี ของnangnaree

ผงสาลีเหมือนจะเป็นเมืองเล็กๆกลางหุบเขาที่สงบ และสวยในสายตาของ nangnaree เองนะ มาเที่ยวที่ผงสาลีครั้งแรก ดูข้อมูลมาก่อน ข้อมูลไม่ค่อยมีเยอะเท่าไหร่เลย แต่สิ่งที่เขาแนะนำมีเดินป่าไปบ้านชนเผ่าระยะทางไกลและใช้เวลาหลายวัน สองคือพระธาตุภูฟ้า และล่องเรือกลับไปเมืองขวา

การเดินป่าไปดูบ้านชนเผ่าก็น่าสนนะแต่นักท่องเที่ยวที่งบน้อยๆอย่างเรา อันไหนเลี่ยงได้ก็เลี่ยงก่อนจ้าว และอีกอย่างต้องไปหลายวันด้วยซึ่งเวลาเราไม่พอ

พระธาตุภูฟ้าเราคนชอบทำบุญก็จะไปไหว้พระ ขอพร กับสิ่งศักดิ์สิทธิ์คู่บ้านคู่เมืองของเขาด้วย แต่การเดินขึ้นพระธาตุภูฟ้านี่ไกลเหมือนกัน แต่สมัยนี้เขาทำทางรถขึ้นถึงแล้วใครขี้เกียจเดินก็เหมาหรือจ้างรถขึ้นไปได้  เมื่อขึ้นไปถึงจะเห็นวิวและเห็นเมืองผงสาลีมุมสูงๆไปถึงแล้วแบบว่าหายเหนื่อยเลยจ้าว

แต่สำหรับเราการไปเที่ยวที่ไหนก็แล้วแต่ชอบเดินเล่นเข้าซอยนั้นออกซอยนี้ ดูวิถีชีวิตคนพื้นที่ และดูธรรมชาต ดูอาหารการกิน มาผงสาลีไม่ต้องไปไหนไกลก้ได้จา้วเดินเล่นในตัวเมือง ตามบ้านคนก็พอเพียงแล้วจ้าว



 รถที่มาผงสาลี
ก่อนเข้าถึงตัวเมืองผงสาลี

ตลาดเช้าเมืองผงสาลี

บรรยากาศเมืองผงสาลี
เบียร์ลาวมีขายทุกที่
เดินเล่นตามหมู่บ้านดูวิีชีวิตคนผงสาลี
เดินขึ้นพระธาตุภูฟ้าเหนื่อยมากๆ
พระธาตุภูฟ้าต้องมาเที่ยวให้ได้
สิ่งศักดิ์สิทธิ์แห่งเมืองผงสาลี
ตำขนมจีนผงสาลี

วันอังคารที่ 25 มีนาคม พ.ศ. 2557

บรรยากาศล่องเรือแม่น้ำอู

เมื่อมาถึงผงสาลีแล้ว พลาดไม่ได้ที่จะนั่งเรือล่องแม่น้ำอู มาที่เมืองขวา จากนั้นจะนั่งรถ หรือเรือต่อก็แล้วแต่จ้าว แต่ณ วันนี้ เดือนมีนาคคม 2557 กำลังสร้างเขื่อนแม่น้ำอูแห่งใหม่ เลยต้องนั่งเรือหลายต่อหน่อย

จากผงสาลีนั่งเรือไปเมืองสัมพัน ประมาณสามชั่วโมง ราคาประมาณ 250 บาท หรือ 55000 กีบ พอถึงเมืองสัมพันก็นั่งรถประมาณ 4 กิโลเมตร ราคา10000 กีบ ไปที่ปากป่อง และนั่งเรือต่อมาเมืองขวาในราคา55000 กีบ จ้าว

ระหว่างสองข้างทางมีแก่ง น้ำเชี่ยวทำให้ตื่นเต้นตลอดเวลา บางทีน้ำกระเซ็นเข้ามาตัวเปียกไปตามๆกัน บางคนเขาก็ห่อข้าวมากินในเรือ เพราะคนที่โดยสารเรือมาส่วนมากเป็นคนท้องถิ่นจ้าว นั่งชมสองฝั่งแม่น้ำอู เห็นบ้านเรือน บางคนรอโบกเรือ ถ้าเรือไม่เต็มเขาก็จะจอดรับ เห็นเด็กๆเล่นน้ำ ดูวิถีชีวิตสองฝั่งแม่น้ำอู เพลินดีจ้าว กว่าจะถึงเมืองขวา นอกจากจะล่องแก่งกันอย่างสนุกสนานแล้ว ยังเห็นวิถีชิวิตคนลาวสองฝั่งแม่น้ำอู มีความสุขจริงๆจ้าว



กำลังจะออกเรือแล้วจ้าว

บรรยากาศบนเรือ

น้ำเป็นสีเขียว แต่ถ้าไปอีกหน่อยจะเป็นสีฟ้าจ้าว

บ้านเรือน ริมแม่น้ำอู

น้ำเชี่ยวล่องแก่ง

น้ำเชียวมาก

คนมาโบกเรือ

เขานิยมใช้แพแบบนี้กัน

แม่น้ำอู

วิถีชิวิตริมแม่น้ำอู

วิถีชิวิตริมแม่น้ำอู

เด็กน้อยลาว สองฝั้งแม่น้ำอู

ห่อข้าวมากินบนเรือด้วย


วันจันทร์ที่ 24 มีนาคม พ.ศ. 2557

เฮือนพักแคมอูที่เมืองขวา

ล่องน้ำอูมาถึงเมืองขวา หาบ้านพักแคมน้ำอู ริมน้ำอูสักหน่อยเพื่อจะได้ดื่มด่ำกับธรรรมชาติให้สุดๆไปเลย เพราะการเดินทางลำบาก ไม่ได้มาบ่อยๆจ้าว หลังจากขึ้นเรือมาก็ทางซ้ายมือจะเห็นป้าย เฮือนพักแคมอูก็เดินขึ้นมาเลยจ้าว เป็นบ้านพักและร้านอาหาร ราคาห้องละ 50000 กีบ หรือประมาณ 200 บาท 

ห้องพักมีไม่กี่ห้อง แต่สภาพก็โอเคนะสำหรับราคานี้ ห้องน้ำแบบชักโครก และมีมุ้งให้กาง ถ้ามียุงเยอะๆ ตอนเย็นออกมานั่งทานข้าว ชมบรรยากาศริมน้ำอู วิถีชีวิตริมน้ำอู หรือดูเด็กๆสาวๆอาบน้ำกันจ้าว ที่บ้านพักนี้วันที่เรามาพักส่วนมากเป็นฝรั่งนะ และตอนเย็นก็มีคนมาทานอาหารกันเยอะเหมือนกันทั้งฝรั่งและคนไทย แต่เห็นคนไทยน้อยมาก 

เวลาที่ไปเที่ยวที่ไหน หากติดแม่น้ำ ถ้าไม่แพงมากก็เลือกที่จะพักริมน้ำเพราะเย็นสบาย ฟังเสียงน้ำไหล หรือไม่งั้นก็ ตื่นเช้าเปิดประตูเจอหมอก เจอแม่น้ำ แบบนี้ชอบฝุดๆเลยจ้าว 

เมืองขวาโรงแรมมีเยอะเหมือนกัน และราคาไม่แพงด้วย หากไม่ชอบริมน้ำก็จะหาที่อื่นก็มีให้เลือกเยอะจ้าว


เฮือนพักและร้านอาหารแคมอู
ภายในห้องพัก

ร้านอาหารแคมอู

บทความที่ได้รับความนิยม